ประเภทของ กล้องวงจรปิด ที่นิยมใช้ มีกี่ประเภท? มีความแตกต่างกันอย่างไร โดยทั่วไปแล้ว มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ โดยส่วนใหญ่มักใช้กล้องวงจรปิดเพื่อการเฝ้าระวัง หรือใช้ในการบริหารจัดการทั้งสำหรับบ้านพักอาศัยส่วนบุคล อาคารที่พักอาศัยที่มีคนจำนวนมากบริษัท ห้างร้าน องกรณ์ ทั้งภาครัฐ และเอกชน
โดยมีวัตถุประสงค์ในการติดหลักๆ ก็คือ ต้องการภาพที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงมีการออกแบบกล้องให้หลายหลายประเภท เพื่อการทำงานที่ดีในแต่ละจุดติดตั้ง ให้ติดตั้งได้ทุกรูปแบบพื้นที่เหมะสมในทุกสถาพแวดล้อม จะมีอะไรบ้าง ลองศึกษาตามบทความนี้ดูนะครับ
สารบัญ
- ประเภทที่ 1 กล้องวงจรปิดแบบโดม ( Dome Camera )
- ประเภทที่ 2 กล้องวงจรปิดแบบมุมมองคงที่ ติดตั้งภายนอก
- ประเภทที่ 3 กล้องวงจรปิด Speed Dome PTZ (Pan/Tilt/Zoom)
- ประเภทที่ 4 กล้องหมุนส่ายและซูม ติดตั้งภายใน
- ประเภทที่ 5 กล้องแบบกล่อง
- ประเภทที่ 6 กล้องแบบดูได้รอบทิศทาง
6 ประเภท กล้องวงจรปิด ที่นิยมใช้ ในปัจจุบัน
ประเภทที่ 1 กล้องวงจรปิดแบบโดม ( Dome Camera )
มักเรียกสั้นๆว่า กล้องแบบโดม กล้องชนิดนี้เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานติดตั้งภายในบ้าน ภายในอาคารเพราะจะมีความสวยงาน ไม่เป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็นมากนัก เป็นกล้องที่มักมีการใช้งานบ่อย เพื่อเฝ้าระวังแบบทั่วไปภายในอาคาร ร้านค้า ด้วยสภาพพื้นที่ภายใน ความคมชัดของกล้องวงจรปิดทีเลือกใช้งานอาจไม่จำเป็นต้องใช้ความคมชัดสูงมาก
หากขนาดของห้องประมาณ 4X4 เมตร ความคมชัดแค่ 2MP ก็มีความเพียงพอต่อการดูภาพ หรือสามารถจะระบุตัวตนบุคคลที่เดินผ่านได้แล้ว
เลนล์ ที่มากับตัวกล้องมักเน้นเลนล์ที่มีขนาดกว้าง 2.8 mm หรือ ไม่น้อยกว่า 3.6 mm (ขนาดของเลนล์ ตัวเลขยิ่งน้อย ยิ่งกว้าง) เป็นกล้องที่มักใช้ในพื้นที่ภายใน ในทุกๆสถานที่
เป็นเหตุให้ ถึงแม้ กล้องวงจรปิด มีกี่ประเภท แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะเลือกใช้ประเภทที่ 1 นี้ด้วยเสมอ
ประเภทที่ 2 กล้องวงจรปิดแบบมุมมองคงที่ ติดตั้งภายนอก
เป็นอีก 1 ประเภท ที่มักจะเห็นใช้กันทั่วๆไป จำนวนมาก มีเลนล์ติดมากับตัวกล้องเรียบร้อยแล้ว ด้วยสภาพการใช้งานภายนอก จึงต้องเน้นการเลือกสินค้า เพื่อความเหมาะสม กับสภาพแวดล้อมด้วย มักเรียกกันทั่วไปว่า กล้องแบบอินฟาเรด ปัจจุบันกล้องวงจรปิดเกือบทุกรุ่น ทุกค่ายจะต้องมีอินฟาเรดไว้ใช้งานเป็นมาตรฐานทั่วไป หรือเป็นจุดขายของกล้องวงจรปิด ส่วนของรุ่นไหนจะส่องแสงสว่างได้ไกล ได้ใกล้ก็ต้องขึ้นอยู่แต่ละรุ่นที่เราเลือกนำไปใช้งาน
เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ จริงๆ ต้องรู้ความต้องการว่า ต้องการติดเพื่อดูอะไร เฝ้าระวังจุดไหน มีหลายครั้งที่ผู้ใช้งานไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะต้องการดูอะไร จะเอาทั้งเฉพาะจุด และเอาทั้งภาพรวม สุดท้ายก็จะได้ภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้นก่อนทำการเลือกซื้อกล้อง ควรกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งาน หรือการดูต้องให้ชัดเจนก่อนเบื้องต้น เพื่อจะได้เลือกกล้องภายนอกอาคารได้อย่างเหมาะสมที่สุด
แม้ กล้องวงจรปิด มีกี่ประเภท แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเลือกใช้ประเภทที่ 1 และ ประเภทที่ 2 นี้ มากที่สุด
ประเภทที่ 3 กล้องวงจรปิด Speed Dome PTZ (Pan/Tilt/Zoom)
กล้องชนิดนี้ เรียกว่ากล้องสปีดโดม หรือ PTZ มีความพิเศษ ที่สามารถ หมุน ส่าย ซูมตามระยะที่ต้องการได้ มักใช้ดูรายละเอียดของเหตุการณ์ ระหว่างเฝ้าระวัง ด้วยการมีคนคอยคอนโทรนกล้อง หรือการตั้งค่า ให้กล้องทำงานอัตโนมัติ มักติดตั้งเพิื่อเสริมเพิ่มจากเดิมที่มีกล้องฟิคอยู่แล้ว มีความคมชัด หลากหลายระดับ ขึ้นอยู่กับสเป็ค เพื่อดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของสิ่งที่เฝ้าระวังอยู่ ณ ขณะนั้น ส่วนมากจะเป็นการติดภายนอก หรือพื้นที่กว้างๆ
ประเภทที่ 4 กล้องวงจรปิดแบบหมุนส่ายและซูม ติดตั้งภายใน
กล้องสปีดโดมอีกชนิดแต่จะเน้นเป็นการติดตั้งภายในอาคาร หรือเป็นการฝั่งเข้าไปในฝาเพดาน เป็นที่นิยมสำหรับพื้นที่ราชการที่มีฝาระดับสูง
หรือห้องประชุมขนาดใหญ่ กล้องชนิดนี้มีความสะดวกในการดูภาพ ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง สามารถซูมเพื่อดูรายละเอียดได้ดีมากๆ
ประเภทที่ 5 กล้องวงจรปิดแบบกล่อง
เป็นกล้องที่มีส่วนประกอบของกล้อง และ เลนส์แยกออกจากกัน ซึ่งปัจจุบันกล้องชนิดนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะมีความยุ่งยากในการใช้งาน ราคาสูง มักใช้ในพื้นที่ที่มีความต้องการเฉพาะ เนื่องจากเลือกใช้เลนล์ได้หลากหลาย ออกแบบตามความต้องการได้
ปัจจุบัน ไม่นิยมใช้กับงานทั่วไปเพราะตัวกล้องกับตัวเลนส์จะต้องแยกซื้อกัน บางครั้งเมื่อเราซื้อตัวกล้องมาใช้งาน เราจะต้องใช้ความชำนาญในการเลือกซื้อเลนส์ และอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องใช้ร่วมด้วย เช่น IR ที่เป็นอุปกรณ์แยก เฮ้าสซิ่ง และเลนล์ ที่ต้องใช้เพิ่ม และมีขนาดที่เหมาะสมกับสเปคด้วย
อุปกรณ์ กล้อง วงจรปิด มีอะไรบ้าง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกเลย!
ประเภทที่ 6 กล้องวงจรปิดแบบดูได้รอบทิศทาง
กล้องวงจรปิดแบบดูรอบทิศทางเป็นกล้องอีก 1 ประเภท ที่มีทั้งที่เป็นแบบ 360 องศา ที่เรียกว่า กล้อง fisheye หรือจะเป็นแบบ 180 องศา ก็แล้วแต่จะเลือกนำไปใช้งาน จุดเด่นของกล้องวงจรปิดชนิดนี้ คือ เลือกนำไปติดตั้งแค่ตัวเดียวก็สามารถมองเห็นได้หมด แต่เราต้องดูสถานที่ในการติดตั้งด้วยว่าเหมาะสมหรือป่าว ควรเป็นพื้นที่โล่ง กว้างไม่มีสิ่งกีดขวาง
การออกแบบการติดตั้งกล้องวงจรปิดชนิดนี้ จะต้องเน้นดูที่ระยะความสูงของตัวกล้องในการติดตั้ง ให้เหมาะสมกับความละเอียดของตัวกล้องด้วย เพื่อให้ได้ภาพที่มีความละเอียดเพียงพอที่จะพิจรณาเหตุการณ์ เมื่อดูภาพย้อนหลังด้วย
กล้องวงจรปิดประเภทนี้ มักมากับความสามารถพิเศษ เช่น การนับจำนวนคน ความสารถในการดูทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ การดูภาพย้อนหลัง ที่มีความหลากหลาย จะดูเป็นภาพกลมๆ อาจจะดูยาก ผู้ผลิตจึงมักแนะนำให้ใช้ร่วมกับซอฟแวย์เฉพาะของแต่ละยี่ห้อ หรือเครื่องบันทึกเฉพาะ เพื่อให้ง่าย เมื่อต้องดูภาพย้อนหลัง เช่น ดูแบบแบ่ง4ส่วน / ดูแบบ 180 องศา (แบ่ง 2 ส่วน ) หรือรูปแบบอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวกล้องแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ
เรายินดี ทีจะให้คำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้นะครับ
เราเชื่อว่า ข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์กับคุณ เราจะเพิ่มเติมข้อมูลความรู้ต่างๆให้มากยิ้งขึ้น
นอกจากประเภทของกล้องวงจรปิดที่มีความแต่ต่างกัน ตามลักษณะต่างๆแล้ว การ วางระบบกล้อง วงจรปิด ต้องดูเรื่องพื้นที่ ที่ต้องการติดตั้งด้วย
ยังต้องคำนึงถึงพื้นที่ ที่ต้องติดตั้งและใช้งานให้เหมาะสมด้วย เราขอแนะนำการเลือกกล้องเพื่อติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ครับ
พื้นที่โดยรอบอาคารหรือส่วนที่ติดกับถนนหรือทางเดิน
ตรวจสิ่งที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ : การตรวจจับในพื้นที่แบบนี้ ส่วนมากก็จะเป็นลักษณะการดูภาพรวมๆ เน้นเลนส์ที่มีขนาดกว้าง ประมาณ 2.8mm ดูการเคลื่อนที่ เคลื่อนไหวของคน และยานพาหนะ
กล้องวงจรปิดอาจจะเลือกใช้ที่ความคมชัดระดับ 1.3MP – 2MP ก็น่าจะเพียงพอ เพื่อการดูภาพรวมทั่วๆไปในจุดที่ติดตั้ง
ช่องทางเข้า –ยานพาหนะ ระบุประเภทและอ่านป้ายทะเบียนได้ : บริเวณนี้มักนิยมติดกันมาก แต่ส่วนมากก็จะมีปัญหากันเยอะ การติดตั้งควรติดทั้งฝั่งขาเข้า และฝั่งขาออก
โดยจุดวางกล้องต้องอยู่ในระดับต่ำๆ ประมาณหัวเข่า ส่วนอีก 2 ตัวก็ติดในระดับสายตาทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อดูการเข้าออกของคนในรถ หรือเดินผ่าน
ความคมชัดของกล้องวงจรปิดต้องสามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่มีการต้องมานั่งเดาภาพกันอีก ลักษณะของกล้องที่ใช้ในระดับตำแหน่งหัวเขากล้องต้องสามารถตัดแสงไฟหน้ารถได้
ความคมชัดประมาณ 2MP-4MP โดยต้องเลือกใช้เลนส์ที่มีความแคบ อยู่ที่ประมาณ 6mm ส่วนอีก 2 ตัวที่เหลือก็เป็นเลนส์มุมกว้างๆ 2.8mm หรือ 3.6mm ก็ได้
ทางออกของยานพาหนะ ส่วนที่ติดกับถนนหรือทางเดิน
ช่องทางเข้า – ออกของบุคคล จากที่จอดรถเข้าสู่อาคาร
ระบุตัวตนได้ และสิ่งของ : ทางเข้าออกลัษณะนี้อาจจะเป็นสถานีโดยสารรถไฟฟ้า หรือขนส่งหมอชิต ขนส่งสายใต้ใหม่ เราต้องออกแบบให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูงในบริเวณทางเข้าออก
โดยต้องสามารถระบุตัวตนใบหน้าได้อย่างชัดเจน จะไม่มีการมานั่งเดาภาพที่ได้ในจุดนี้อีกแล้ว กล้องต้องมีความคมชัด หากเป็นบริเวณที่มีค่าของแสงแตกต่างกันมากๆ
ก็ต้องเลือกใช้งานกล้องที่มีฟั่งชั่น WDR ดีๆ หน่อยเพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่ชัดๆ ส่วนการเลือกใช้ความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 4MP ก็จะดี แล้วเลือกเลนส์ที่ประมาณ 6mm, 8mm
เพราะจุดที่จะมองเน้นเฉพาะประตูทางเข้าอย่างเดียว ไม่เน้นบริเวณอื่นๆ แต่อย่างใด
ประตูเข้าสำนักงาน
บุคคลที่เข้าออก และสิ่งของที่นำมา : ประตูทางเข้าสำนักงานส่วนมากจะเป็นการออกแบบดูภาพรวมๆ เน้นดูกว้างๆ ยิ่งมองได้กว้างก็จะชอบกัน แต่พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะดูภาพบริเวณนั้นไม่ชัด
ต้องอาศัยกล้องใกล้เคียงช่วยประกอบภาพอีกที แบบนี้ถือว่าใช้งานไม่ได้เต็มที่ ดังนั้นกล้องวงจรปิดที่ยจับภาพบริเวณเข้าออกอาคาร
อาจจะต้องกำหนดเอาไว้เลยว่าจับภาพแค่ประตูเท่านั้น และเน้นภาพที่มีความคมชัดสูงๆ เอาไว้สักตัวหนึ่ง เพื่อจะได้สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เข้าออกอาคารของเราได้ว่ามีหน้าตาแบบไหน
ส่วนเมื่อเข้ามาแล้ว เราก็ใช้เป็นการดูภาพรวมว่าเขาเดินไปทางไหน ขึ้นไปชั่นไหน กล้องที่เลือกใช้ก็ต้องสามารถแก้ภาพย้อนแสงได้โดยต้องมีฟั่งชั่น WDR ความคมชัดสัก 4MP
โดยต้องใช้เลนส์ที่มีความแคบมากๆ เช่น 9mm, 12mm เน้นเฉพาะประตูเท่านั้น
โซนพักรอ โถงรับแขก
ภาพรวมของห้องโถงทั้งหมด : จุดพักรอที่เป็นโถงใหญ่ บริเวณนี้ส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวม กล้องที่ใช้ในการติดตั้งก็อาจจะมีหลายๆ ตัว
เพื่อเก็บภาพให้ได้ทุกมุม หรือบ้างที่ก็จะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดสปีดโดมเสริมไว้บริเวณตรงกลางเพื่อดูรายละเอียดให้มีความชัดยิ่งขึ้น อย่างเช่นดูของที่ถือมา ดูใบหน้า ดูพฤติกรรม
กล้องที่เลือกใช้ก็จะมีความคมชัดประมาณ 2MP ส่วนเลนส์ของกล้องก็อยู่ที่ประมาณ 2.8mm หรือ 3.6mm เน้นดูภาพรวม
บริเวณพนักงานต้อนรับ
บุคคลที่เข้ามาอย่างชัดเจน : บริเวณพนักงานตอนรับจุดนี้อาจจะเป็นพื้นที่กว้างๆ หรืออาจจะเป็นพื้นที่แคบ ๆ ก็ได้ อย่างไรก็ดีต้องมีจุดติดตั้งกล้องที่สามารถมองภาพผู้มาติดต่อ และผู้ให้บริการอย่างชัดๆ ด้วยเหมือนกัน
และตัวกล้องเองก็ควรจะสามารถบันทึกเสียงการสนทนากันในบริเวณนั้นได้ด้วย เพื่อเวลามีปัญหาก็สามารถที่จะนำภาพ และเสียงมาประกอบยืนยันกันได้ด้วย มุมมองของกล้องที่เลือกใช้ก็ประมาณ 2.8mm หรือ 3.6mm
เน้นการมองมุมกว้างๆ ส่วนความคมชัดของกล้องก็ประมาณ 2MP ระยะติดตั้งของตัวกล้องกับบริเวณที่จะดูต้องไม่ไกลเกิน 5 เมตร ถึงจะได้ภาพที่สามารถระบุตัวตนผู้ที่มาติดต่อได้
ช่องทางเดินภายในสำนักงาน
ภาพรวมของการเคลื่อนไหว : ช่องทางเดินในสำหนักงานส่วนมากจะเป็นการดูภาพรวมๆ ภายใน แต่ตัวกล้องทีติดตั้งจะเป็นลักษณะกล้องทรงโดมยึดติดกับตัวฝาเพดาน
โดยจุดที่ติดตั้งและเป็นช่องทางเดิน หรืออาจจะติดจากมุมห้องภายในสำนักงานเพื่อดูการเคลื่อนไหวไปมาของเจ้าหน้าที่ การเลือกกล้องก็มักจะเป็นกล้องมุมกว้างๆ เช่นเลนส์ 2.8mm
เน้นดูภาพรวม ส่วนเรื่องของความคมชัดก็อยู่ที่ประมาณ 1.3MP หรือ 2MP ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องความคมชัดสูงมากกว่านี้จะได้ไม่เปลืองงบประมาณ เพราะความคมชัดระดับ 2 ล้านพิกเซล
มีระยะความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร
บริเวณภายในสำนักงาน
ดูภาพรวมของพื้นที่ทั้งหมด : การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้บริหารที่มักต้องการกัน แต่ในส่วนของผู้ปฎิบัตงานในสำนักงานอาจมีความรู้สึกว่าเป็นการจับผิดหรือป่าว
บ่อยครั้งที่ทำการติดตั้งแล้วผู้อยู่ในบริเวณนั้นจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดี แต่เชื่อเถอะครับ ช่วงแรกๆ ก็อาจรู้สึกอึดอัด แต่พออยู่ไปนานๆ จะลืมไปเลยว่ามีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งจริงๆ ผลดีมีมากมาย อย่างน้อยในแง่ของความปลอดภัย ก็ช่วยได้
ในแง่ของเจ้าของ ก็อาจทำให้พนักงานมีความตั้งใจทำงานมากขึ้น เพราะคิดว่ามีคนจับตามองเราอยู่ การเลือกใช้กล้องในสำนักงานส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวมๆ ตัวกล้องก็มักจะทำการติดจากมุมห้อง
เพื่อดูภาพรวม บางครั้งก็จะติดเป็นกล้องที่สามารถฟั่งเสียงได้ด้วย สามารถหมุ่นส่ายไปมาได้ด้วย แล้วแต่ความต้องการ ความคมชัดที่นิยมก็จะไม่ต่ำกว่า 2MP เลนส์ที่เลือกใช้ก็อยู่ที่ประมาณ 2.8mm
พื้นที่จอดรถจักรยานยนต์
ดูภาพทั้งหมดของพื้นที่ลานจอดรถ : พื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ ปัญหาที่เจอก็จะเป็นการขโมยหมวกกันน็อค ขโมยอะไหล่รถ โดยส่วนมากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้จะเป็นการดูภาพรวม
ถ้าหากเป็นพื้นที่จอดขนาดใหญ่ อย่างเช่นในห้างสรรพสินค้า ในอาคารสำนักงาน แต่หากเป็นออฟฟิศขนาดเล็กอันนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะกล้องสามารถจับภาพได้ชัดกว่า พื้นที่ใหญ่ ๆ
ดังนั้นการวางจุดกล้องต้องทำการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงประตูทางเข้า และทางออกเฉพาะของบริเวณจอดรถมอเตอร์ไซร์ด้วย กล้องวงจรปิดที่ใช้หากเป็นพื้นที่ที่ไม่สว่างมากนักก็ต้องเลือกเป็นกล้องที่มีอินฟาเรดไปด้วยเลย
ต้องเลือกความคมชัดที่ไม่ต่ำกว่า 2MP หากเป็นไปได้เพิ่มความคมชัดมากว่านี้ก็ได้เพื่อให้เห็นรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้น ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้องก็คงจะเป็นภาพกว้างๆ เช่น เลนส์ 2.8mm, 3.6mm
ที่จอดรถรับส่ง – จอดรถรับจ้าง
ภาพความเคลื่อนไหวทั้งหมด : บริเวณนี้อย่างเช่นหน้าโรงแรม หน้าโรงเรียน หรือป้ายรถเมล์ จุดนี้มากจะมีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดกันมาก โดยเฉพาะป้ายรถเมล์ต่างๆ
เพราะอาจจะเกิดจากการลืมสิ่งของเอาไว้ในรถโดยสาร อยากรู้ป้ายทะเบียนที่นั้งมา หรือเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิดเช่น การวิ่งราวกระเป๋านักท่องเที่ยวเป็นต้น
การติดตั้งกล้องบริเวณนี้ส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวมๆ แค่ดูการเคลื่อนไหวของผู้คน และยานพหนะต่างๆ เท่านั้น จะเน้นเพื่อดูป้ายทะเบียนเลยก็อาจจะต้องลุ้นกันหน่อยว่าเห็นหรือป่าว
เพราะวัตถุประสงค์การติดก็เพือดูภาพรวมๆ กว้างๆ อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็อาจจะเลือกกล้องที่มีความคมชัดสูงหน่อยประมาณสัก 4MP
เพื่อให้มองภาพได้ไกลและชัดมากยิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มกล้องเพื่อให้ได้มุมมองที่ขาดหายไปมากขึ้นก็ได้ ส่วนเลนส์ที่เลือกก็จะประมาณ 2.8mm
เรายินดี ทีจะให้คำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้นะครับ
เราเชื่อว่า ข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์กับคุณ เราจะเพิ่มเติมข้อมูลความรู้ต่างๆให้มากยิ้งขึ้น
จุดรับส่งสินค้า
ดูการขนส่งสินค้า : การออกแบบจุดรับส่งสินค้าต้องดูว่าพฤติกรรมการนำรถเข้ามาเทียบท่า หรือเอารถเข้ามาจอดเป็นแบบไหน อย่างบางที่ก็จะให้รถถ่อยหลังเข้ามาจอด บางที่ก็เอาหน้าเข้า แล้วทำการขนย้ายด้านหลัง
การวางจุดกล้องก็ต้องวางให้เหมาะสม และกำหนดการจอดของรถที่เข้ามาให้เหมือนกัน เพื่อง่ายต่อการควบคุมและบริหารจัดการของผู้ปฎิบัติงาน และภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเลือกว่าจะใช้กล้องความคมชัดเท่าไหร อันนี้ก็ต้องประกอบกับขนาดของสินค้าด้วยว่ามีขนาดในการส่งเป็นแบบไหน เช่น เป็นกล่องขนาดใหญ่ เป็นกล่องเล็กๆ แต่หากสินค้ามีความหลากหลาย
เราก็ต้องออกแบบให้กล้องสามารถจับวัตถุที่มีขนาดเล็กมากทีสุดได้ เพื่อเมื่อเกิดเหตุแล้วเราสามารถดูภาพย้อนหลังดูรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ความคมชัดขึ้นต่ำก็อยู่ประมาณ 2MP
ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้อง ก็เอาขนาดที่มีความแคบไว้ก่อน เช่น 9mm. และต้องทำการโฟกัสเฉพาะจุดรับส่งสินค้าเท่านั้น มุมในการมองก็ต้องเฉพาะบริเวณนั้นอย่างเดียวถึงจะชัด
ตู้ขายสินค้า
ดูบุคคลและสิ่งของ : ตู้ขายสินค้าหากสังเกตุถ้าหากเป็นตู้ที่ทำการผลิตขึ้นมาใหม่ก็จะนิยมฝั่งกล้องวงจรปิดเอาไว้ที่ตู้ได้เลย เพราะเราสามารถเลือกเลนส์ของกล้องที่มีความกว้างเยอะๆได้ เช่น 180 องศา
อย่างเช่นตู้ ATM แต่หากเราไม่สามารถติดกล้องวงจรปิดไปในตู้ได้ เราก็ต้องหามุมใหม่โดยการติดนอกตู้ ลักษณะการติดก็แล้วแต่ความชอบ และวัตถุประสงค์ของผู้ต้องการภาพ
บางครั้งก็ติดด้านข้างเพื่อดูการกด และการใช้งสน หรือบางที่ก็ติดบริเวณด้านบน กดลงมาตรงๆ เพื่อดูการทำงานให้ชัด บ้างครั้งก็ติดจากด้านหลังเพื่อดูภาพรวม หากมีหลายๆ ตู้
การเลือกความคมชัดกล้องตัวกล้องวงจรปิดก็จะต้องสามารถระบุตัวตนผู้ที่เข้ามาใช้บริการให้ด้วยด้วย เพื่อว่าหากเกิดการเสียหายจากการใช้ผิดวิธี ก็สามารถตามตัว
ระบุตัวตนได้อย่างไม่ต้องสงสัยกันอีกเลย ความคมชัดประมาณ 2MP ก็น่าจะพอถ้าหากบริเวณติดตั้มีขนาดไม่เกิน 5X5 เมตร แต่หากกว้างกว่านี้ก็ต้องเพิ่มความคมชัดมากขึ้น ส่วนเลนส์ก็ 2.8mm
ช่องทางเข้าออกหลัก
ภาพที่ระบุบุคคลและสิ่งของได้ : ทางเข้าออกหลัก อาจจะเป็นคอนโด อพาร์ทเม้น หรืออาคารบ้านพักต่างๆ ภาพที่จะต้องได้จากบริเวณนี้ต้องมีความชัดเท่านั้น ต้องสามารถระบุตัวตนได้ว่าเขาเป็นใคร
ถึงแม้จะเป็นบุคคลที่เราไม่เคยเจอมาก่อน หรือเคยเจอมาแล้ว ต้องสามารถระบุได้อย่างชัดเจน ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น อย่างน้อยตัวกล้องที่ติดต้องไม่เน้นภาพรวม
แต่ให้เน้นเฉพาะประตูทางเข้าโดยเฉพาะเพื่อเราจะได้ภาพที่ชัดเจน หลายๆ ครั้งผู้ติดตั้ง และเจ้าของพื้นที่จะไปเน้นดูภาพรวมกันเป็นส่วนมาก ยิ่งมองได้กว้างยิ่งชอบ แต่ภาพไม่ชัด ใช้ประโยชน์จากภาพไม่ได้เลย
เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา โชคดีหน่อยหากเป็นบุคคลที่เคยเจอกันมาก่อน หรืออาศัยอยู่ในอาคารก็พอที่จะเดาได้บ้างว่าหน้าตาของเค้าคล้ายๆ แต่หากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักมาก่อน อันนี้ก็หาข้อมูล หรือเดาอะไรไม่ถูกเลย
กลายเป็นว่ากล้องไม่สามารถนำภาพมาใช้งานได้เลย การเลือกกล้องความคมชัดประมาณ 2MP ก็ได้แล้ว แต่จุดติดตั้งต้องไม่ไกลจากประตูทางเข้าจนเกินกว่า 5 เมตร ไม่อย่างนั้นอาจมองหน้าไม่ชัดเลย
ส่วนเลนส์กล้องก็เลือกให้แคบเข้าไว้ให้เห็นแค่เฉพาะประตูขนาดประมาณ 6mm หรือ 9mm
บริเวณทางเดิน และที่นั่งรอ
ภาพการเคลื่อนไหวในพื้นที่ : บริเวณนี้อาจจะเป็นพื้นที่ในสวนสาธารณะ หรือสถานออกกำลังกาย การติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้ต้องสามารถจำแนกได้ด้วยสายตา
สามารถที่จะยืนยันได้อย่างมั่นใจว่าเป็นบุคคลที่เราเคยเห็นมาก่อน รวมถึงความชัดเจนในการดูรายละเอียดของป้ายทะเบียนรถได้ การติดตั้งกล้องจะต้องไม่ไกลจากบริเวณนั่งรอนี้มากนัก
ระยะอยู่ที่ไม่เกิน 10 เมตร และไม่ติดตั้งสูงจากพื้นดินมากเกินไปเพราะอาจมองไม่เห็นหน้า ไม่เห็นป้ายทะเบียน ความคมชัดของกล้องวงจรปิดต้องไม่ต่ำกว่า 2MP
หากเพิ่มได้มากกว่านี้ก็ยิ่งดี ภาพก็จะชัดมากขึ้น และติดระยะได้ไกลมากขึ้นไปอีก ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้องว่าอยู่ที่ประมาณ 3.6mm, 6mm, 8mm
โถงหน้าลิฟท์ หรือทางขึ้น
ภาพคนและสิ่งของที่นำมาในบริเวณนี้ : การติดตั้งกล้องวงจรปิดในลิฟท์อาจมีความยิ่งยาก อาจมีการแก้ไข ซ่อมแซมกันอยู่ตลอด เราจึงนิยมมาติดตั้งกล้องบริเวณชั้น 1 โถงหน้าลิฟท์กัน
เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่าย และการดูแลรักษาสายสัญญาณในห้องลิฟท์ การเลือกติดกล้องวงจรปิดหน้าลิฟท์อาจเลือกความคมชัดที่ 1.3MP หรือ 2MP ก็พอแล้ว เพราะพื้นที่ในบริเวณนี้ไม่กว้างมากนัก
เน้นการเลือกใช้เลนส์มุมกว้างประมาณขนาด 2.8mm การเลือกมุมกล้องก็ต้องทำการวางให้ครบคุมทั้งพื้นที่ หากลิฟท์มีสองฝั่ง ก็ต้องวางกล้องให้เห็นภาพได้หมด
หากไม่ได้ก็ต้องทำการเพิ่มกล้องเข้าไปอีก โดยเฉลี่ยทั่วไปมุมกล้องก็จะมีความกว้างอยู่ที่ 80 องศา เป็นอย่างน้อย แล้วแต่จะเลือกรุ่นไหน ชนิดไหนกันครับ
ทางเข้าห้องน้ำ
คนและสิ่งของ : การเลือกออกแบบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องน้ำ ส่วนมากก็ต้องให้ได้ภาพที่สามารถนำไปยืนยันตัวตนผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้
การออกแบบหากเป็นไปได้ก็ต้องติดช่วงแนวทางเดินที่จะเข้าไปห้องน้ำ ก็จะได้ภาพที่มีความคมชัดดีมาก แต่หากว่าไม่ได้ก็ต้องติดจากข้างนอกตัวอาคาร
อันนี้ก็ต้องดูมุม และระยะความคมชัดให้พอดี ไม่อย่างนั้นก็จะได้ภาพที่เป็นการดูแบบภาพรวม ไม่สามารถระบุตัวตนคนที่เดินผ่านไปมาได้ แล้วก็ไม่สามารถนำภาพที่ได้มาใช้ประโยชน์อะไรได้เลยเพราะภาพไม่ชัด
พื้นที่ส่วนที่หวงห้าม พื้นที่ไม่ควรมีคนเข้าไป
ดูผู้ที่เข้ามา (บุกรุก) : บริเวณนี้ควรจะเพิ่มฟั่งชั่นการแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องได้ด้วยก็จะดีมากๆ เพราะคงไม่สามารถมานั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อดูบริเวณลักษณะแบบนี้ได้ตลอดเวลา
การเลือกให้กล้องแจ้งเตือนเมื่อมีการบุกรุก ก็จะช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยดูแลความปลอดภัยให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้นั้น
ต้องสามารถตรวจจับ ระบุและยืนยันเป้าหมายได้ชัดเจน อย่างเช่น คน สัตว์ สิ่งของ ระบบการตรวจับการเคลื่อนไหว สามารถแจ้งเตือนได้ทั้งในห้องคอนโทรล และผ่านระบบมือถือ
บางครั้งหากเป็นพื้นที่ที่มีขอบเขตกว้างมากๆ ก็อาจจะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดชนิดสปีดโดมเสริมเข้าไปเพื่อช่วยให้เราตรวจสอบภาพหน้างานได้ดีมากยิ่งขึ้น
สามแยก สี่แยก เพื่อการจราจร
เห็นยานพาหนะ ลักษณะ สี รุ่นอย่างชัดเจน : จุดสี่แยก สามแยก มักจะมีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดมากพอสมควร บริเวณนี้สิ่งที่เราคาดหวังไม่ใช้แค่จะดูการเคลื่อนที่ของยานพาหนะเท่านั้น
แต่เราจะต้องดูป้ายทะเบียนของรถให้ชัดมากกว่า เพราะจะได้ตามตัวได้ว่าเป็นรถอะไรที่ไหน หากเรามองเห็นป้ายทะเบียนชัด ในส่วนของสีรถ ยี่ห้อรถก็จะดูได้ด้วย การเลือกใช้กล้องวงจรปิดตามสีแยก สามแยก
ต้องเลือกกล้องที่มีความคมชัดสูง ไม่ต่ำกว่า 4MP เพราะส่วนมากตัวกล้องจะอยู่สูง ส่วนการติดตั้งอาจจะต้องแยกกว่าเป็นเลนส์ใครเลนส์มัน ไม่เอาแบบติดตั้งตัวเดียวดูกล้องวงจรปิดได้ทุกเลนส์เลย
อย่างนี้อาจได้ภาพที่ไม่ชัด เอามาใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่เต็มที่ ส่วนการเลือกขนาดของเลนส์กล้องวงจรปิดอาจจะต้องเลือกใช้เลนส์ขนาด 6mm หรือ 8mm เพื่อเน้นเฉพาะเลนส์ใครเลนส์มันเท่านั้น
สรุป
การตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดราคา ไม่ใช่เป็นเหตุผลการตัดสินใจ มาใช้งาน เพื่อการเฝ้าระวัง หรือใช้ในการบริหารจัดการสำหรับบริษัท ห้างร้าน เรามีวัตถุประสงค์หลักๆ นั้นก็คือต้องการภาพ แต่ด้วยการขาดความเข้าใจในการออกแบบภาพให้มีความคมชัด
นำไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เราจึงมักจะได้ภาพที่นำไปใช้งานไม่ได้ หรือไม่ชัดนั้นเอง มีผู้ให้บริการน้อยทีมีความเชียวชาญและเข้าใจเรืองของภาพจาก กล้องวงจรปิด หากผู้ใดสนใจต้องการให้เราไปออกแบบให้สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้

Pingback: กล้องวงจรปิดยี่ห้อไหนดี ข้อมูลปี 2022 สินค้ายี่ห้อไหนดีที่สุด มาลองดูกันครับ